Menu

โตโยต้า ต้อนรับเยาวชนอาเซียน 12 ประเทศ เยี่ยมชมศูนย์นาสาธิตรัชมงคล จ.สระบุรี

โครงการ “เยาวชนอาเซียนเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตามรอยพระยุคลบาท” รุ่นที่ 2 เป็นโครงการที่สำนักนายกรัฐมนตรีจัดขึ้น เพื่อเผยแพร่สืบสานพระราชปณิธานและพระราชดำริ “หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ของสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งเป็นองค์ความรู้อันทรงคุณค่าแก่ตัวแทนเยาวชนจากสมาชิกอาเซียน จำนวนทั้งสิ้นกว่า 70 คน จาก 12 ประเทศ ได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย สธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มาเลเซีย สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ สาธารณรัฐสิงคโปร์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ราชอาณาจักรภูฏาน สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา และราชอาณาจักรไทย ที่สนใจน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้

นายวุฒิกร กล่าวว่า “ศูนย์นาสาธิตรัชมงคล ได้รับคัดเลือกจากสำนักนายกรัฐมนตรีให้เป็นหนึ่งในสถานที่ศึกษาดูงานและปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้แก่เยาวชนทั้ง 12 ประเทศ ซึ่งศูนย์นาสาธิตรัชมงคลก่อตั้งขึ้นเพื่อสนอง     พระราชปณิธานในการช่วยเหลือชาวนาอย่างยั่งยืน โดยนำองค์ความรู้ของโตโยต้ามาประยุกต์ใช้ ได้แก่ ระบบการผลิตแบบโตโยต้า (TPS) วิถีโตโยต้า (Toyota Way) และการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง (Kaizen) มาปรับปรุงการทำนาเพื่อ  เพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนและเพิ่มกำไร ซึ่งสอดคล้องกับแนวพระราชดำริ “เศรษฐกิจพอเพียง” ที่มุ่งเน้นการพัฒนา  ให้ประชาชนและชุมชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และสามารถพึ่งตนเองได้ อันเป็นแนวทางการพัฒนาสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง”

กิจกรรมที่ศูนย์นาสาธิตรัชมงคลแบ่งออกเป็น 3 ฐาน ดังนี้

ฐานที่ 1 : ข้าว

  • เรียนรู้วิธีการปลูกข้าว อาทิ การอธิบายเกี่ยวกับต้นข้าว สาธิตวิธีการเกี่ยวข้าว ฝัดข้าว ตำข้าว 

ฐานที่ 2 : ดินและปุ๋ยสั่งตัด

  • เรียนรู้เกี่ยวกับชนิดของดิน วิเคราะห์ดิน การใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมเพื่อลดต้นทุนและได้ผลผลิตที่ดีที่สุด    

ฐานที่ 3 : วิถีชีวิตไทย

  • เรียนรู้และปฏิบัติการนำผลิตภัณฑ์จากข้าวมาทำขนมไทย สาธิตงานใบตอง ดอกไม้ จักสาน การปั้นดิน และการละเล่นแบบไทย

 “เรามีความมุ่งหวังว่าเยาวชนในโครงการ “เยาวชนอาเซียนเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตามรอยพระยุคลบาท” รุ่นที่ 2 จะได้ใช้เวลาศึกษาเรียนรู้กับนักวิชาการ ปราชญ์ชาวบ้านและผู้นำชุมชนอย่างเต็มที่ และสามารถนำความรู้ ประสบการณ์จากการเข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้ไปประยุกต์ใช้กับประเทศของตน เพื่อส่งเสริมภูมิภาคอาเซียนให้มีความเข้มแข็งและเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต” นายวุฒิกรกล่าวในที่สุด