Menu

โตโยต้าต่อยอดโครงการ “CU TOYOTA Ha:mo” จัดประกวด OPEN INNOVATION CONTEST เปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษา ร่วมพัฒนานวัตกรรมการเดินทางในอนาคต”

โครงการ “CU TOYOTA Ha:mo” ถือกำเนิดขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปีการสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และในโอกาสครบรอบ 55 ปีของการก่อตั้งบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ในปี พ.ศ 2560 ภายใต้ความร่วมมือเพื่อทดลองระบบการแบ่งปันรถกันใช้ด้วยยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก EV Car Sharing เพื่อวิ่งในระยะทางสั้นๆ ภายในพื้นที่โดยรอบของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยระบบการคมนาคมสำหรับยุคหน้าอย่าง Ha:mo สำหรับการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างระบบขนส่งสาธารณะและการเดินทางส่วนบุคคลอย่างราบรื่น เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกสบาย เดินทางสู่จุดหมายปลายทางได้อย่างรวดเร็วและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 

นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ ประธานคณะกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า“บริษัท โตโยต้า ร่วมมือกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการพัฒนารูปแบบการเดินทางในอนาคต ภายใต้แนวคิด เปิดเวทีทางนวัตกรรมแก่นิสิต นักศึกษา จึงจัดให้มีการประกวดโครงงานในชื่อ CU TOYOTA Ha:mo Open Innovation Contest “ เพื่อร่วมพัฒนานวัตกรรมการเดินทางในอนาคต โดยเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษา ได้ประยุกต์ ใช้ความรู้ความสามารถ ตลอดจนความคิดสร้างสรรค์ นำเสนอแนวคิดเข้าประกวดอย่างไม่มีข้อจำกัด ในการพัฒนา EV Car sharing ไปในมิติต่างๆ ซึ่งจะก่อให้เกิดการมีส่วนร่วมจากเยาวชนคนรุ่นใหม่ ผ่านการพัฒนาด้านเทคโนโลยีควบคู่ ไปกับการพัฒนาด้านสังคม เพื่อรวบรวมแนวคิด คัดเลือกแนวทาง สู่การพัฒนาโครงการ CU Toyota Ha:mo ในด้านต่างๆ ต่อไปในอนาคต”

สำหรับแนวคิดที่ผ่านการคัดเลือก จะได้รับรางวัลทุนการศึกษามูลค่ารวม 2 ล้านบาท และพิจารณานำไปสู่การประยุกต์ใช้งานจริงต่อไปในอนาคต โดยโครงการจะให้การสนับสนุนงบประมาณอีก 6 ล้านบาท เพื่อพัฒนาสู่การใช้งานได้จริง โดยเปิดรับผลงาน ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน – 12 ตุลาคม 2561

     “ผมขอขอบคุณ พลังแห่งความร่วมมือจากบริษัทผู้ให้การสนับสนุน ทั้ง 13 บริษัท ที่มีส่วนสำคัญในการผลักดันก่อให้เกิดการแข่งขันประกวดโครงงานในครั้งนี้ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ภายใต้โครงการนี้กับแนวคิด “เวทีเปิดทางนวัตกรรม” จะเป็นการต่อยอดแนวความคิดพื้นฐาน ไปสู่กระบวนการก่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ และสามารถนำหลักคิดที่สำคัญ มาร่วมกันพัฒนาทางเลือกใหม่สำหรับการเดินทางในสังคมเมือง อันจะก่อให้เกิดคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไปอย่างยั่งยืน” นายนินนาท กล่าวในที่สุด