Menu

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัว The new C-Class รุ่นประกอบในประเทศ ที่สุดแห่งยนตรกรรมซาลูนอัจฉริยะเจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด

มร .ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)จำกัด กล่าวว่า“เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย มีแนวทางการดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ “เดอะ เบสท์”(THE BEST) เพื่อสะท้อนความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่จะนำเสนอ “สิ่งที่ดีที่สุด” ให้กับลูกค้าทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า ซึ่งจากความสำเร็จและการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคตลอดระยะเวลา4ปีที่ผ่านมาของ The new C-Classเจนเนอเรชั่นปัจจุบัน ทำให้ในปี 2560 ที่ผ่านมา The C-Class แบบซาลูนและเอสเตทมียอดขายทั่วโลกรวมกันสูงถึงกว่า 415,000 คัน  ซึ่งปัจจัยที่ทำให้รถยนต์รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ คือการนำเสนอรุ่นย่อยที่หลากหลายให้ลูกค้าได้เลือกสรร ซึ่งรวมถึงรถยนต์แบบสปอร์ตคูเป้ และคาบริโอเลต์ สองประตูที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2558 และ 2559 ตามลำดับด้วย”

“รถยนต์ The new C-Class รุ่นประกอบในประเทศที่ผลิตในปีนี้ ได้รับการออกแบบดีไซน์ใหม่หมดทั้งภายนอกและภายใน โดยจะเน้นที่รูปลักษณ์ด้านหน้า ไฟหน้า และไฟท้าย รวมถึงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีเพื่อให้ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ของThe C-Class รุ่นนี้มีประสิทธิภาพเทียบเท่ารถยนต์ตระกูล The S-Classเพื่อยกระดับความปลอดภัยเชิงรุกของรถให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมความสามารถในการขับขี่แบบกึ่งอัตโนมัติได้ในบางสถานการณ์อีกด้วยโดยการเปิดตัว The new C-Classรุ่นประกอบในประเทศในวันนี้ ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้นำเสนอรถยนต์รุ่น The C 220 d ทั้งหมด 3รุ่นย่อยด้วยกัน คือ รุ่นที่นำมาจัดแสดงในงานวันนี้ The C 220 d Avantgardeและ The C 220 d AMG Dynamic รวมถึงรุ่นที่จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยในเดือนตุลาคมนี้ อย่างรุ่น The C 220 d Exclusive อีกด้วย”มร. ฟรังค์ กล่าวเพิ่มเติม

The new C-Classรุ่นประกอบในประเทศ

The new C-Class รุ่นประกอบในประเทศที่ปรับโฉมใหม่ เป็นการผสมผสานคุณสมบัติอัจฉริยะ และความเร้าใจเข้าด้วยกัน ซึ่งรูปลักษณ์ใหม่นี้ มีความโดดเด่นด้วย ดีไซน์ภายนอกของรุ่น The C 220 d Avantgardeจะใช้กระจังหน้าสีเงินเสริมโครเมี่ยม พร้อมตราสัญลักษณ์  เมอร์เซเดส-เบนซ์และล้ออัลลอยแบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 18 นิ้ว รุ่น The C 220 d Exclusive จะเป็นกระจังหน้าแบบคลาสสิค พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์อยู่เหนือฝากระโปรงหน้าและล้ออัลลอยแบบ multi-spoke ขนาด 18 นิ้ว ส่วนในรุ่น The C 220 d AMG Dynamic   จะติดตั้งกระจังหน้าแบบ diamond grille สีเงิน พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์และ ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้ว ตกแต่งด้วยสีดำ โดยมีกันชน      หน้า-หลังและสเกิร์ตข้างเป็นดีไซน์สปอร์ตแบบ AMG Bodystyling โคมไฟหน้าและหลัง แบบใหม่ได้รับการออกแบบโดยใช้เส้นโค้งเป็นองค์ประกอบหลัก พร้อมใช้วัสดุคุณภาพสูงเพื่อสร้างความประทับใจสูงสุดในแง่รูปลักษณ์ และความรู้สึก รวมถึงการใช้ไฟหน้าแบบ LED High Performance ในรุ่น The C 220 d Avantgarde และเทคโนโลยีไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LEDในรุ่น The C 220 d Exclusive และ The C 220 d AMG Dynamic พร้อมระบบไฟสูงแบบ ULTRA RANGE Highbeamเป็นครั้งแรกในรถยนต์The C-Class ซึ่งไฟหน้านี้ประกอบด้วยหลอดไฟLED ที่ทำงานโดยอิสระจำนวน 84 หลอดต่อโคมไฟหน้า 1 โคม ที่สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ อีกทั้งยังสามารถปรับความเข้มแสง โดยใช้ระบบไฟหน้าให้เข้ากับ สภาพการจราจรโดยรอบได้ ซึ่งระบบไฟหน้า MULTIBEAM LED มีคุณสมบัติพิเศษมากมายที่เหนือกว่าระบบไฟหน้าLED มาตรฐาน (ที่มีหลอดไฟ LED 19 หลอดต่อโคมไฟหน้า 1 โคม)เช่น ระบบไฟส่องสว่างขณะขับผ่านสี่แยกหรือวงเวียน ระบบไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเมือง และระบบไฟส่องสว่างสำหรับสภาวะอากาศเลวร้าย ทั้งนี้ ระบบไฟสูงแบบ ULTRA RANGE Highbeamจะทำงานอัตโนมัติ หากระบบตรวจจับได้ว่าไม่มีผู้สัญจรในทางรถสวน ถนนข้างหน้าเป็นทางตรง และผู้ขับขี่กำลังใช้ความเร็วตั้งแต่ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ระบบไฟสูงแบบ ULTRA RANGE Highbeamจะช่วยให้ไฟหน้าของรถมีความสว่างในระดับที่สูงขึ้นตามความเร็วของรถโดยสามารถส่องสว่างได้ไกลถึง 650 เมตรนอกจากนี้ในรุ่น The C 220 dAMG Dynamic ยังมีหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ ที่เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้าอีกด้วย

ดีไซน์ภายใน และห้องโดยสารถูกออกแบบให้มีความหรูหราสไตล์สปอร์ต และมีโครงสร้างที่ดูต่อเนื่องเป็นชิ้นเดียว โดยรุ่น The C 220 d Avantgarde จะมาพร้อมกับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control ในขณะที่ The C 220 d Exclusive และThe C 220 d AMG Dynamic จะใช้พวงมาลัยที่มาพร้อมระบบพาวเวอร์ปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้าและปรับน้ำหนักตามความเร็วรถ ซึ่งในรุ่น The C 220 d AMG Dynamicจะเพิ่มพวงมาลัยที่มา พร้อมกับระบบมัลติฟังก์ชัน ตกแต่งแบบสปอร์ตท้ายตัด พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control โดยรุ่น The C 220 d Avantgarde และ The C 220 d Exclusive ใช้เบาะหุ้มด้วยหนัง ARTICO และ The C 220 d AMG Dynamicใช้เบาะหุ้มหนังแบบสปอร์ต โดยเบาะด้านหลังของทุกรุ่น ยังสามารถพับลงได้แบบ 1/3 และ 2/3อีกด้วย ทั้ง 3 รุ่นมาพร้อมกับปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์  Push Start) ในขณะที่รุ่น The C 220 d Exclusive และ The C 220 d AMG Dynamic จะมีระบบกุญแจแบบKEYLESS-GO เสริมเข้ามาด้วยนอกจากนั้น The new C-Class ยังได้นำเทคโนโลยีและรูปแบบการใช้งานมาจากรถยนต์The S-Class โดยมีระบบAll-Digital instrument display ที่ทำให้หน้าจอเรือนไมล์แบบดิจิทัลของรุ่น The C 200 d AMG Dynamic มีขนาดใหญ่ถึง12.3 นิ้ว และยังสามารถปรับรูปแบบการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ คือ Classic, ProgressiveและSport โดยรถยนต์ The new C-Class ยังมาพร้อมกับหน้าจอมัลติมีเดียบริเวณกลางคอนโซลแบบ MB Audio 20 ขนาด 10.25 นิ้ว เพื่อใช้ในการควบคุมระบบต่างๆ ของรถได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัสด้วยระบบ Touch padไม่ว่าจะเป็นระบบ Apple CarPlay™ ระบบถอยจอดแบบอัตโนมัติ หรือระบบแผนที่นำทาง3 มิติรูปแบบใหม่ในรุ่นThe C 220 d Exclusive และ The C 220 d AMG Dynamic เป็นต้น นอกจากนี้ยังเพิ่มสุนทรียภาพในการเดินทางด้วยระบบไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารที่ปรับสีได้ถึง64 สี และในรุ่น The C 220 d Exclusiveยังได้ติดตั้งฟังก์ชั่นปรับสมดุลอากาศภายในห้องโดยสาร (AIR BALANCE package)ที่ช่วยฟอกอากาศ พร้อมปรับอากาศให้มีกลิ่นหอมด้วยน้ำหอมชนิดเดียวกับในรถยนต์ The S-Classเพื่อยกระดับความสบายในการโดยสารขั้นสูงสุด

ระบบเทคโนโลยี และระบบความปลอดภัยที่มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่รุ่นล่าสุดสำหรับตระกูล The C-Classซึ่งมีความคล้ายคลึงกับระบบที่ใช้ในรถยนต์The S-Class อาทิ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ช่วยเสริมเรื่องความปลอดภัย และยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น อาทิ โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ(Electronic Stability Program - ESP®), ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (Anti-lock braking system – ABS), ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKEพร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-Start Assist, ไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Adaptive brake light), ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ ABA (Active Brake Assist system), ระบบรักษาความเร็ว(Cruise Control) และจำกัดความเร็ว(SPEEDTRONIC), ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ (ASSYST Service interval indicator), ระบบเตือนแรงดันลมยาง (Tyre pressure loss warning system), ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่(ATTENTION ASSIST), เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC), ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดแบบอัตโนมัติ(Active Parking Assist),ระบบ DYNAMIC SELECT คือแบบ Sport, Sport+ และ Comfort,ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือApple CarPlay™ & Android Autoและระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่Bluetoothนอกจากนั้นยังมีระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า(Distance Pilot DISTRONIC)กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround view camera) และระบบเสียงรอบทิศทางBurmester®surround sound system ที่เป็นฟังก์ชั่นที่เพิ่มเข้ามาในรุ่นAMG Dynamic ระบบแผนที่นำทางที่ติดตั้งเฉพาะในรุ่นThe C 220 d Exclusive และ           The C 220 d AMG Dynamic และกล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยรถ (Reversing camera) ที่มีเฉพาะในรุ่นThe C 220 dAvantgardeและ The C 220 d Exclusive ด้วย