“ปัจจุบันซูบารุมีศูนย์บริการและศูนย์บริการตัวแทนจำหน่ายรวม 26รายทั่วประเทศ โดยในไตรมาสสุดท้ายนี้ จะมีแผนตั้งเป้าเพิ่มขึ้นอีก 9ราย ได้แก่ ขอนแก่น,เลย,อุบลราชธานี,นครสวรรค์,ประจวบคีรีขันธ์,นครศรีธรรมราช,สุราษฎร์ธานี,ราชบุรีและระยอง รวมเป็น 35  ราย ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค ซึ่งแห่งแรกตามแผนดังกล่าวคือ ศูนย์บริการซูบารุ จ.ขอนแก่น” นายวิชัย ชินณรงค์ กล่าว“สำหรับจังหวัดใหม่ที่ซูบารุเล็งเห็นถึงศักยภาพและเหมาะสมที่จะมีตัวแทนจำหน่าย ประกอบด้วย พัทยา, สมุทรสาคร, สระบุรี, อยุธยา, ฉะเชิงเทรา, ลำปาง, บุรีรัมภ์, อุดรราชธานี, ศรีสะเกษ, สุรินทร์, ร้อยเอ็ด, สกฬนคร, มหาสารคาม, กระบี่และตรัง โดยซูบารุพร้อมจะให้การสนับสนุนในเรื่องการสร้างการรับรู้และพัฒนาศักยภาพด้านการขายและการบริการอย่างต่อเนื่อง ด้านการควบคุมคุณภาพการบริการให้เป็นมาตรฐานเดียวกันนั้น ซูบารุ จะมีการฝึกอบรมและตรวจสอบการดำเนินงาน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานทุกปี รวมถึงจะมีการสำรวจความพึงพอใจทั้งฝ่ายขายและฝ่ายบริการจากลูกค้าด้วย”

สำหรับแผนการขยายฐานตัวแทนจำหน่ายของซูบารุในครั้งนี้ บริษัทฯ มั่นใจว่าจะเป็นหมากตัวสำคัญที่จะดันยอดขายให้เติบโตขึ้นเป็นเท่าตัว“ซูบารุต้องการขยายการเข้าถึงผู้บริโภคให้ครอบคลุมในพื้นที่จังหวัดใหญ่ๆ ทั้งหมดของประเทศไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค รวมถึงรองรับการบริการให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงการบริการได้สะดวกขึ้น สามารถรองรับการบริการกับลูกค้าที่อยู่ในจังหวัดที่ไม่มีศูนย์บริการและจังหวัดใกล้เคียง ไม่ต้องเดินทางไกล และจะทำให้ซูบารุสามารถเพิ่มยอดขายและเติบโตได้ตามเป้าหมาย”นายวิชัย ชินณรงค์ กล่าวเสริม

ด้านมุมมองของซูบารุต่อธุรกิจยานยนต์ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2561นั้น นายวิชัย นำเสนอมุมมองต่อประเด็นดังกล่าวว่า “ธุรกิจรถยนต์ในปีนี้มีการเติบโตขึ้นจากปีก่อนค่อนข้างมาก คาดว่ายอดจำหน่ายรถยนต์ในปีนี้น่าจะแตะที่ 1,000,000 คัน และมองว่าจะเติบโตขึ้นในปีหน้า เพราะผู้บริโภคเริ่มมั่นใจทั้งภาพรวมเศรษฐกิจและการเมือง โดยเฉพาะซูบารุมีการเปิดตัวโรงงานในไทย ยิ่งน่าจะเพิ่มความเชื่อมั่นและเพิ่มโอกาสทางการขายได้ดียิ่งขึ้นเช่นกัน”