นิสสันเตรียมจัดแสดงรถยนต์เด่น 14 รุ่นในงานโตเกียว มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 46 รวมถึง ไอเอ็มเค (IMk)
รถยนต์ต้นแบบที่ไร้มลพิษรุ่นใหม่ล่าสุด ตัวแทนในอนาคตของการเคลื่อนที่อัจฉริยะของนิสสัน
หรือ นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี (Nissan Intelligent Mobility) อันเป็นวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ในรูปแบบของการขับขี่
การใช้พลังงานในการขับเคลื่อน และการบูรณาการรถยนต์ให้อยู่ร่วมกับสังคม
IMk : รถยนต์สำหรับการใช้งานในเมืองที่ไร้มลพิษ
นิสสัน ไอเอ็มเค (IMk) นับเป็นที่สุดของรถยนต์สำหรับการใช้งานในเมืองด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
และอัตราเร่งแบบรถยนต์ไฟฟ้าที่ทรงพลังในรูปทรงขนาดกะทัดรัด ที่ถ่ายทอดการออกแบบในอนาคตของนิสสัน
และมากกว่ารถยนต์สำหรับการใช้งานในเมืองที่มีฟังก์ชันหลากหลาย มันยังเป็นรถที่ออกแบบให้มีลักษณะเฉพาะตัว
เพื่อลดความเครียดของผู้ขับขี่ ด้วยการติดตั้งเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ล้ำสมัยรุ่นล่าสุดของโปรไพลอต (ProPILOT) รวมถึงคุณสมบัติการเชื่อมต่อที่ไร้รอยต่อ ไอเอ็มเค
Serena e-POWER: รถมินิแวนอเนกประสงค์ยอดนิยมพร้อมเทคโนโลยีที่ได้รับรางวัลมากมายอย่าง e-POWER
รถมินิแวนอเนกประสงค์รุ่น เซเรนา (Serena) เป็นที่รู้จักกันอย่างดีว่าใช้เทคโนโลยีขั้นสูงมากมาย อาทิ เทคโนโลยีช่วยเขับขี่ โปรไพลอต(ProPILOT) และ เทคโนโลยี e-POWER ซึ่งเปิดตัวในเดือนมีนาคม 2561
โดยระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าภายใต้ เทคโนโลยี e-POWER ของเซเรนา
ได้รับการคัดเลือกให้เป็นเทคโนโลยีแห่งปี 2562 โดยนักวิจัยด้านยานยนต์และการประชุมสื่อมวลชน
ของประเทศญี่ปุ่น หรือAutomotive Researchers’ and Journalists’ Conference of Japan
(RJC) และด้วยการปรับปรุงในเดือนสิงหาคม 2562 ที่ผ่าน ขณะนี้เซเรนาได้ถูกเพิ่มการปกป้องด้านความปลอดภัยแบบ 360องศาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น กระจังหน้าที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อให้รูปลักษณ์ดูพรีเมียม
และมีความสปอร์ต
Skyline ใหม่: ซีดานสปอร์ตระดับพรีเมี่ยมพร้อม ProPILOT 2.0 สกายไลน์ (Skyline)
นับเป็นชื่อที่สื่อถึงเทคโนโลยีและความตื่นเต้นเร้าใจของนิสสันตั้งแต่สกายไลน์รุ่นแรกเปิดตัวในปี พ.ศ. 2500
สำหรับสกายไลน์รุ่นล่าสุดมาพร้อมกับเทคโนโลยีช่วยขับขี่ Pro-PILOT2.0
ซึ่งเป็นระบบช่วยเหลือการขับขี่แบบแรกของโลกที่มีการรวมระบบนำทาง
และการควบคุมพวงมาลัยที่ไม่ต้องใช้มือบังคับเทคโนโลยีช่วยขับขี่ Pro-PILOT 2.0
ถูกออกแบบสำหรับการขับขี่ในทางหลวงโดยทำงานร่วมกับระบบนำทางของรถ
เพื่อช่วยในการควบคุมรถให้วิ่งตามเส้นทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้าระบบนี้ยังช่วยให้การขับขี่แบบที่ไม่ต้องสัมผัสกับพวงมาลัย (hands-off)ขณะที่ขับขี่ในช่องจราจรเดียวนานเท่าที่ความใส่ใจของผู้ขับขี่อยู่บนท้องถนนเบื้องหน้า
และผู้ขับขี่มีความพร้อมที่จะเข้ามาควบคุมรถเมื่อเกิดเหตุจำเป็น
LEAF e+: ระยะทางในการขับขี่และสมรรถนะที่เพิ่มมากขึ้นนิสสันมียอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า
นิสสัน ลีฟ มากกว่า 430,000 คัน ทั่วโลกนับตั้งแต่เปิดตัวในปี พ.ศ. 2553
และหลังจากได้เปิดตัว ลีฟ อี-พลัส (LEAF e+) เมื่อต้นปีที่ผ่านมาด้วยการเพิ่มสมรรถนะและระยะทางในการขับขี่
ที่เพิ่มขึ้นจากระบบขับเคลื่อนใหม่ ด้วยแบตเตอรี่ความจุ และความหนาแน่นสูงทำให้เพิ่มระยะทางในการขับขี่มากขึ้นถึงกว่า 40%(โดยสูงสุดวิ่งได้ระยะทางถึง 458 กิโลเมตรภายใต้มาตรฐานการทดสอบWLTC ของประเทศญี่ปุ่น)
ทั้งนี้การใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมมาพร้อมแรงบิดมหาศาลให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่น่าตื่นเต้นเร้าใจมากยิ่งขึ้น
GT-R: สุดยอดสุนทรีย์แห่งการขับขี่กว่าเวลา 50 ปีจีที-อาร์ รุ่นปี 2020 นี้ถ่ายทอดเทคโนโลยีและประสบการณ์
จากการแข่งของนิสสันอย่างเต็มที่ทั้งการทำความเร็วและประสิทธิภาพการควบคุมที่ดีมากยิ่งขึ้น
โดยสำหรับงาน Tokyo Motor Show ในปีนี้ นิสสันจะจัดแสดง จีที-อาร์รุ่นฉลองครบรอบ 50 ปี (GT-R 50th Anniversary special edition) และ จีที-อาร์ นิสโม (GT-R NISMO) รุ่นปี 2020
จีที-อาร์รุ่นฉลองครบรอบ 50 ปี : รุ่นพิเศษเพื่อการเฉลิมฉลองความเป็น จีที-อาร์ ที่มีความหรูหรา แต่มีความสปอร์ต รวมถึงเรื่องราวและความสามารถที่โดดเด่นโดยนำเสนอการตกแต่งภายในและภายนอก รวมถึงการใช้สีแบบทูโทน
(two-tone color) อันที่เป็นเอกสิทธิ์ตามแบบฉบับของนิสสัน